โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือโรคที่เกิดจากความหนาแน่นของเนื้อกระดูกลดลง จนส่งผลให้โครงสร้างของกระดูกมีการเปลี่ยนแปลง และเปราะบาง แตกหักง่าย ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักของร่างกายตามปกติได้ ซึ่งโรคกระดูกพรุนส่วนมากจะพบในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกับผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนซึ่งมวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยต่างๆ ในปัจจุบันก็สามารถทำให้คนทุกเพศทุกวัยมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้เร็วขึ้น
– อายุมากขึ้น โดยเมื่ออายุมากกว่า 50 ปี กระดูกจะบางลง 1-3% ทุกปี
– ได้รับแคลเซียม วิตามินดี และโปรตีนไม่เพียงพอ
– ไม่ออกกำลังกาย และเคลื่อนไหวร่างกายน้อย
– สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
– ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ หรือชา มากเกินไป
– กินยาบางชนิด เช่น ยารักษาไทรอยด์ ยาสเตียรอยด์ และยาขับปัสสาวะ
– ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
– ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
– ผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ
– ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยมาก หรือมีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 20 กิโลกรัม/ตารางเมตร
– ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ขนาดเทียบเท่าหรือมากกว่า Prednisolone 5 มิลลิกรัม/วัน ต่อเนื่องตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป
– ปวดหลัง และปวดตามข้อกระดูก
– ปวดบริเวณที่กระดูกมีการยุบตัวลง
– ส่วนสูงลดลง หลังค่อมลงเรื่อยๆ
– กระดูกเปราะและหักง่าย
ทำแบบประเมินความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน คลิกที่นี่
– ระมัดระวังเรื่องการหกล้ม
– กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นกินให้ครบ 5 หมู่ และอาหารที่ให้แคลเซียม เช่น นม เต้าหู้ ปลาตัวเล็ก และผักใบเขียว
– งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
– ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนให้น้อยลง
– ออกกำลังกายครั้งละ 30 นาทีอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วัน/สัปดาห์
– ตรวจมวลกระดูกปีละครั้ง
ข้อกระดูกเสื่อมหรือไม่ เช็คอาการได้ด้วยตนเอง